น้ำตานอง! ปล่อยตัวหนุ่มมือพิการ ชี้ไม่ใช่มือยิง จนท.อคส.

วินาทีของคราบน้ำตา หนุ่มมือพิการผู้ต้องหาคดียิงเจ้าหน้าที่บริหารงาน 5 องค์การคลังสินค้า (อคส.) คดีดังเมื่อ 2553 ถูกปล่อยตัว หลังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำผิด ศาลตัดสินประหารชีวิต แต่หลังจากจองจำได้เกือบ 1 ปี ศาลฎีกาให้ประกันตัว เนื่องจากหลักฐานใหม่ชี้ไม่ใช่มือยิง เพราะเป็นผู้พิการ

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (12 ม.ค.) ที่เรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ครอบครัวของ นายชำนาญ สุจนะ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธปืนยิง นายสุกฤษ์ ศรีบุศยดี เจ้าหน้าที่บริหารงาน 5 องค์การคลังสินค้า (อคส.) ขณะทานอาหารที่ร้านเรือนปลาสด อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อปี 2553 ได้โผกอดและร้องไห้ทันทีได้พบ นายชำนาญ หลังถูกจองจำเป็นเวลาเกือบ 1 ปี ซึ่งทางการครอบครัวดิ้นรนต่อสู้ เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

นายธิตินัย พาติกบุตร เลขานุการ ของ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้นำคำสั่งศาลของจังหวัดแม่สอด คดีหมายเลขดำที่ 1189/2555 คดีหมายเลขแดงที่ 2033/2555 มาเพื่อขอปล่อยตัวนายชำนาญ ผู้ต้องหาคดียิงเจ้าหน้าที่ อคส. ซึ่งถูกอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิต เมื่อต้นปี 2557 ต่อมามีการเรียกร้องให้สืบสวนคดีดังกล่าวใหม่ และพบหลักฐานว่า นายชำนาญ เข้าข่ายทุพพลภาพ มือพิการอ่อนแรงทั้ง 2 ข้าง ไม่น่าจะใช่มือปืนในคดีนี้

นางอุบล แก้วกันยา อายุ 41 ปี พี่สาวของนายชำนาญ ได้ดำเนินการร้องเรียนต่อ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 จนตั้งชุดสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ พบว่า นายชำนาญ ไม่ใช่ผู้กระทำความผิด แพทย์ยืนยันว่า ยืนยันว่ามือของนายชำนาญอ่อนเเรง ไม่สามารถใช้การได้ตามปกติ เนื่องจากถูกเครื่องบดการเกษตรตัดตั้งแต่ปี 2542 อีกทั้งมีสุขภาพสายตาสั้นมาก จนต้องสวมแว่นตาตลอดเวลา

นอกจากนี้ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้จำลองเหตุการณ์วิถีกระสุนที่ยิงผู้เสียชีวิต โดยให้ นายชำนาญ ทดลองยิง ผลออกมาว่า นายชำนาญ ไม่สามารถจะยิงตามวิถีกระสุนดังกล่าวได้ เนื่องจากวิถีกระสุนถูกยิงกดลงมาจากความสูง ซึ่งคนที่ยิงต้องมีส่วนสูงราวๆ 180 ซม. แต่ นายชำนาญ ส่วนสูง 156 ซม. ประกอบกับยังมีพยานที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร ยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุยิงกัน นายชำนาญ ยังรับประทานอาหารอยู่ที่ร้าน

จากนั้นจึงได้ส่งมอบผลการสืบสวนให้ญาติของ นายชำนาญ และทนายความ ได้นำพยานหลักฐานใหม่นี้เสนอขอยื่นประกันตัวและขอเพิ่มเติมพยานหลักฐานในชั้นฎีกา เมื่อปลายปี 2557 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2558 ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ประกันตัว นายชำนาญ ตามหลักฐานที่กระทรวงยุติธรรมเสนอมา

ด้าน นายคมหาญ ไปสุวรรณ์ ทนายความจำเลย เปิดเผยว่า ตนกับญาติของนายชำนาญ ได้ยืนประกันตัวกับศาลฎีกา โดยนำหลักฐานจากการตรวจร่างกายและผลนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อยืนยันว่า นายชำนาญ ไม่ได้เป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว โดยศาลรับคำร้องและอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 5 ล้านบาท เพื่อปล่อยตัวชั่วคราว

ขณะที่ นายชำนาญ ผู้ต้องหา หลังจากถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำกลางพิษณุโลก ได้โผล่เข้ากอด ภรรยาและลูกสาว 2 คน รวมทั้งพ่อแม่ พร้อมกับกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนต้องขอบคุณทางรองปลัดกระทรวงฯ เป็นอย่างมาก และดีใจที่ได้รับการปล่อยตัวออก พบกับพ่อ แม่ พี่ น้อง ภรรยาและลูก ก่อนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา จ.ตาก ทันที