หนุ่มเมืองบ้านโป่ง จ.ราชบุรี สุดแค้น แจ้งจับสุนัข 5 ตัวของเพื่อนบ้าน ที่เข้ามารุมกัดไก่ชนที่เลี้ยงเอาไว้ในบ้านตายเกือบยกเล้า ก่อนนำซากไก่มาแขวนไว้ที่หน้าบ้านประจานเจ้าของหมาที่ปฏิเสธความรับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายเจริญ มาตรวัตร์ อายุ 37 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 31/59 (ซอยมายเฮ้าส์) ถนนบ้านปากแรด ในเขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ว่า ไก่ชนที่เลี้ยงไว้ได้ถูกสุนัขของเพื่อนบ้านเข้ามากัดตายไปหลายตัว จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า นายเจริญ ได้นำซาก
ไก่ชนที่ถูกกัดตายมาแขวนไว้หน้าบ้านเกือบ 20 ตัว นอกจากนั้นยังมีข้อความเขียนในกระดาษขนาดใหญ่ว่า“เรียนผู้ที่เป็นเจ้าของหมาทั้ง 5 ตัว ช่วยมารับผิดชอบไก่ผมด้วย” โดย นายเจริญ เล่าให้ฟังว่า ทำงานเป็นช่างซ่อมบำรุงในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านโป่ง และยังชอบเลี้ยงไก่ชนกับไก่พื้นบ้านเป็นรายได้เสริม สำหรับไก่ชนที่เลี้ยงนั้นเป็นไก่สายพันธุ์ดีจากทางภาคใต้ เมื่อโตจะขายตั้งแต่ราคาตัวละ 500-4,000 บาท ซึ่งตนได้ทำเล้าเลี้ยงไว้บริเวณภายในรั้วบ้าน กระทั่งเมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (3 เม.ย.) หลังจากที่ตนและภรรยาออกจากบ้านไปช่วยญาติขายของจนดึก เมื่อกลับเข้ามาบ้านก็พบสุนัขของเพื่อนบ้านในละแวก จำนวน 5 ตัว เข้าไปกัดไก่ในเล้าที่เลี้ยงไว้ตายไปกว่า 20 ตัว โดยเฉพาะไก่ชื่อ "เจ้าม้าล่อ" ที่เป็นพ่อพันธุ์หายาก และตนรักมากก็ถูกกัดตายต่อหน้าต่อตา
นายเจริญ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน สุนัขทั้ง 5 ตัวนี้ก็เคยแอบเข้ามากัดไก่ในเล้าของตนตายไป 13 ตัวแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตนทำได้เพียงแค่ไล่สุนัขไป ไม่กล้าทำอะไรรุนแรง เนื่องเกรงกฎหมาย พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ที่มีบทลงโทษหนัก หากทำอะไรรุนแรงกับสุนัข แต่เมื่อตนไปแจ้งให้กับเจ้าของสุนัขทราบ ก็ถูกปฏิเสธความรับผิดชอบ อ้างว่าไม่ใช่สุนัขที่เลี้ยงไว้ ทำให้ตนเครียดมากไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านโป่ง เพื่อให้ดำเนินการกับสุนัขทั้ง 5 ตัว แต่ทางตำรวจก็บอกกับตนว่า จะให้จับสุนัขทั้งหมดที่ก่อเหตุมาขังไหม หรือไม่ก็ต้องจ้างทนายฟ้องศาลทางแพ่งเอาเอง ตนเลยคิดว่าไก่ที่เลี้ยงไว้คงจะตายฟรี เช้าวันนี้ด้วยความคับแค้นใจ จึงเอาซากไก่ที่ตายมาแขวนและเขียนข้อความประจานเอาไว้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.ท.ปิยพงษ์ วงศ์เกตุใจ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 เม.ย. นี้จะมีการเรียกตัวเจ้าของสุนัขและผู้เสียหายมาเจรจากัน ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป.
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก: dailynews
0 comments:
Post a Comment