จากการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มแอลพีจี ภาคครัวเรือน 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมทุกเดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมาจนกว่าราคาจะปรับถึง 24.82 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อลดปัญหาการลักลอบก๊าซแอลพีจีไปขายทั้งในและต่างประเทศเนื่องจากมีราคาต่างกันมาก ที่สำคัญเพื่อเป็นการยกระดับราคาก๊าซแอลพีจีของไทยหากก้าวเข้าสู่ AEC โดยทางกระทรวงพลังงานได้มีนโยบายช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยด้วยการจัดให้มีการลงทะเบียนเพื่อซื้อก๊าซแอลพีจีราคาเดิม
ทั้งนี้ สุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้ก๊าซแอลพีจีในประเทศไทย แบ่งเป็นการใช้ในครัวเรือนประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ รถยนต์ประมาณ 25-30 เปอร์เซ็นต์ ปิโตรเคมีประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ และอุตสาหกรรมประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งหมดใช้ประมาณ 150,000-200,000 ตันต่อเดือน หรือประมาณ 8 ล้านตันต่อปี
จากสถิติดังกล่าว จะเห็นว่าเมื่อเทียบการใช้ก๊าซแอลพีจีกับการใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่นถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูง เพราะมีการนำก๊าซแอลพีจีไปใช้ซ้ำกับที่มีพลังงานทางเลือกอื่นใช้อยู่แล้ว เพราะเรากำหนดราคาก๊าซแอลพีจีให้มีราคาต่ำ จึงมีการหันมาใช้กันมาก โดยเฉพาะในภาคขนส่ง เช่น รถยนต์จะเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการปรับราคาก๊าซแอลพีจี ในภาคอุตสาหกรรมนั้นก็มีการใช้สูงมากเพราะว่าราคาถูก แต่พอมีการปรับราคาขึ้นไปเท่ากับต้นทุน ณ โรงกลั่นทำให้ปริมาณสัดส่วนนี้ไม่เพิ่ม แต่ไปเพิ่มในรถยนต์เนื่องจากราคายังต่ำเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงน้ำมัน หรือเชื้อเพลิงชนิดอื่น ส่งผลให้การใช้แก๊สแอลพีจีในรถยนต์สูงมาก
ส่วนการใช้แก๊สแอลพีจีในครัวเรือนสาเหตุที่สถิตินิ่งอยู่ที่ประมาณ 38-40 เปอร์เซ็นต์มาโดยตลอด เนื่องจากจำนวนครัวเรือนในประเทศไทยไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่รถยนต์นอกจากจะเพิ่มขึ้นแล้วยังมีรถยนต์จากที่เคยใช้น้ำมันกลับหันมาใช้แก๊สแอลพีจี ซึ่งมีอัตราการเพิ่มจาก 5 เปอร์เซ็นต์ไปจนถึง 25-30 เปอร์เซ็นต์ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี ถือว่าเป็นสถิติที่สูงมากและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนน่ากลัว
สำหรับเรื่องผลกระทบ ได้มีการจัดทำโครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือน ที่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมีสิทธิ์ตามนโยบายรัฐบาลด้านพลังงาน ข้อ 3.5.3 ปรับราคาพลังงานมุ่งสู่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและให้ช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเพื่อใช้แก๊สแอลพีจีราคาเดิมได้อย่างไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด ซึ่งประชาชนที่มีสิทธิ์ซื้อแก๊สแอลพีจีในราคาเดิมแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มครัวเรือนรายได้น้อยและกลุ่มร้านค้า หาบเร่ และแผงลอยอาหาร ซึ่งกลุ่มครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือนและผู้ไม่มีไฟฟ้าใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ ถือว่าเป็นผู้มีรายได้น้อยสามารถรับสิทธิ์ซื้อก๊าซราคาเดิม (ก่อนมีการปรับราคา) ไม่เกิน 18 กิโลกรัม ต่อ 3 เดือน ส่วนร้านค้า หาบเร่ และแผงลอยอาหารได้รับสิทธิ์ซื้อก๊าซราคาเดิม (ก่อนมีการปรับราคา) ไม่เกิน 150 กิโลกรัมต่อเดือน
อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 90 หน่วย ผู้ไม่มีไฟฟ้าใช้ และกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารมีประมาณ 8 ล้านครัวเรือนที่สามารถใช้ก๊าซราคาเดิมจึงไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด สำหรับผู้มีรายได้ค่อนข้างสูงที่อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 90 หน่วยต่อเดือน เช่น ภัตตาคารอาหาร ร้านอาหารขนาดใหญ่จะมีผลกระทบบางส่วนที่จะเป็นต้นทุนในการประกอบอาหาร ซึ่งการปรับราคาเมื่อเทียบต้นทุนของอาหารแล้วไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ของราคาอาหารของผู้มีรายได้มาก
เกณฑ์ดังกล่าวเป็นการใช้เกณฑ์การไฟฟ้ามาตัดสินเพราะมีตัวอย่างในการดำเนินการในเรื่องการใช้ไฟฟ้าฟรีจำนวน 50 หน่วยมาเป็นฐานคิดซึ่งสามารถช่วยชาวบ้านได้ตรงจุดทุกหลังคาเรือน แต่ที่เราใช้เกณฑ์สูงกว่านั้นคือ 90 หน่วย เพราะต้องการรวมถึงการติดตั้งหม้อแปลงไม่เกิน 5 แอมป์ ถ้าบ้านไหนติดแอร์ก็ไม่ใช่ผู้มีรายได้น้อย จึงใช้เกณฑ์ตรงนี้มาตัดสินว่าใครจะเป็นผู้มีสิทธิ์ในการใช้แก๊สราคาเดิม อีกอย่างหนึ่งเนื่องจากไฟฟ้าเป็นปัจจัยหนึ่งของประเทศ ประชาชนมีไฟฟ้าใช้แทบทุกหลังคาเรือน จากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยมีประชาชน 168,000 รายที่ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ซึ่งในจำนวนนี้ก็ให้สิทธิ์ใช้แก๊สแอลพีจีราคาเดิมเช่นกัน
การใช้สิทธิ์สามารถทำตามขั้นตอนง่ายมาก แต่ถ้าไม่เข้าใจระบบการส่งแบบเอสเอ็มเอสโดยเฉพาะในกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารที่ไม่มีใบเสร็จค่าไฟก็สามารถเดินทางไปติดต่อกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เขต อำเภอ อบต. หรือถ้าไม่สะดวกเดินทางไปก็สามารถโทรศัพท์ติดต่อไปยังคอลเซ็นต์เตอร์ ซึ่งท่านสามารถลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่คอลเซ็นต์เตอร์ได้เลยที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2140-7000 และ 0-2129-3344 เมื่อลงทะเบียนเสร็จแล้วจะมีเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบตัวตนและออกใบแจ้งสิทธิ์ให้
การปรับราคาก๊าซแอลพีจีในครั้งนี้ได้เน้นย้ำว่าเป็นการปรับเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้ใช้น้ำมัน โดยเฉพาะผู้ใช้รถจักรยานยนต์และเกษตรกรต้องมาแบกรับภาระแทนผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้แก๊สแอลพีจี ประเด็นต่อมาในเรื่องราคาที่แตกต่างกันอยู่ก่อให้เกิดการลักลอบการนำก๊าซแอลพีจีในครัวเรือนซึ่งมีราคาถูกไปขายในราคาแพง เรียกว่าเป็นการลักลอบการใช้ข้ามกลุ่ม เช่น ไปรับในโรงแก๊สระบุว่าเอาไปใช้ในโรงบรรจุแก๊สการหุงต้ม แต่พอออกจากโรงแยกแก๊สก็วิ่งไปขายให้กับปั๊มแอลพีจีเพื่อนำไปเติมให้กับรถยนต์ ทำให้คนกลุ่มนี้ได้เงินส่วนต่างไปฟรีๆ
อีกกระบวนการหนึ่งคือ การลักลอบไปขายยังต่างประเทศ เพราะแอลพีจีของไทยกำหนดราคาต่ำกว่าพื้นฐานความเป็นจริง ทำให้มีกระบวนการลักลอบไปขายอย่างมาก มีการจับและอยู่ระหว่างการดำเนินคดีอยู่ประมาณ 90 กว่าราย และอีกประการหนึ่งคืออีก 2 ปีข้างหน้าจะมีการเปิดประตูสู่ AEC ถ้ายังไม่มีปรับราคาจะทำให้ราคาก๊าซแอลพีจีในประเทศไทยต่ำกว่าราคาก๊าซแอลพีจีของประเทศเพื่อนบ้านเกินกว่าเท่าตัว และจะมีการนำก๊าซแอลพีจีในประเทศไทยไปขายยังต่างประเทศมากมายได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย ถือเป็นผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก
ดังนั้นเพื่อเป็นการยกระดับราคาก๊าซแอลพีจีของประเทศไทยเพื่อลดปัญหาต่างๆ จึงต้องมีการปรับราคาขึ้น หากใครที่มีสิทธิ์ซื้อก๊าซแอลพีจีราคาเดิมตามที่กล่าวมาข้างต้น รีบลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป.
ขั้นตอนการใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซแอลพีจีราคาเดิมทาง SMS
ท่านสามารถใช้สิทธิ์ด้วยการส่งข้อความ (SMS) ผ่านโทรศัพท์มือถือ (ในเครือข่าย AIS DTAC และ TRUE MOVE) ตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ลงทะเบียนเพื่อยืนยันสิทธิ์ก่อนสั่งซื้อ กด*755* รหัสผู้ได้รับสิทธิ์ (เลขทะเบียนมิเตอร์ไฟที่ปรากฏอยู่ในบิลแจ้งหนี้) *รหัสร้านค้า (ทะเบียนร้านค้าแก๊สที่เราโทรสั่งประจำ) # กดโทรออก จากนั้นระบบจะส่งข้อความกลับไปที่เบอร์โทรของผู้รับสิทธิ์และเบอร์โทรร้านแก๊สที่ท่านสั่งซื้อ
ขั้นตอนที่ 2 การใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซ
1. ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือนและผู้ไม่มีไฟฟ้าใช้ กด *755* รหัสยี่ห้อ (2 หลัก) *รหัสขนาดถังแก๊ส (1หลัก) # กดโทรออก
2.ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร มีสิทธิ์รับไม่เกิน 3 ถังต่อการกด 1 ครั้ง กด*755* รหัสยี่ห้อ (2 หลัก) * รหัสขนาดถังแก๊ส (1หลัก) * จำนวนถังแก๊ส (1 หลัก) # กดโทรออก จากนั้นระบบจะส่งข้อความกลับไปที่เบอร์โทรของผู้รับสิทธิ์และเบอร์โทรร้านแก๊สที่ท่านสั่งซื้อ ตัวอย่างเช่น เบอร์โทรผู้รับสิทธิ์ “01/09/56 13.00 ซื้อ 15 กก.เหลือ 3 กก. ช่วยเหลือ7.50 บาท” และที่เบอร์โทรร้านแก๊ส “01/09/56 นายคนไทย รักแผ่นดิน ซื้อ 15 กก. ช่วยเหลือ 7.50 บาท”
รหัสยี่ห้อก๊าซ 01 ปตท. 02 เวิลด์แก๊ส 03 ยูนิคแก๊ส 04 สยามแก๊ส 05 ปิกนิก 06 ออร์คิดแก๊ส 07 พี เอ พี 08 เอ็นเอสแก๊ส 09 อูโน่แก๊ส และ 10 ทาคูนิ
รหัสขนาดถังก๊าซ หมายเลข 1 ขนาดถัง 4 กก. หมายเลข 2 ขนาดถัง 7 กก. หมายเลข 3 ขนาดถัง 11 กก. หมายเลข 4 ขนาดถัง 11.5 กก. หมายเลข 5 ขนาดถัง 13.5 กก. และหมายเลข 6 ขนาดถัง 15 กก.
“ประชาชนที่มีสิทธิ์ซื้อแก๊สแอลพีจีในราคาเดิมแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มครัวเรือนรายได้น้อยและกลุ่มร้านค้า หาบเร่ และแผงลอยอาหาร ซึ่งกลุ่มครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือนและผู้ไม่มีไฟฟ้าใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ ถือว่าเป็นผู้มีรายได้น้อยสามารถรับสิทธิ์ซื้อก๊าซราคาเดิมได้”
ทีมวาไรตี้
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก: dailynews
0 comments:
Post a Comment