รองเลขาธิการ กอศ.ชี้ผลวิจัยระบุชัด เพิ่มผู้เรียนอาชีวะต้องแก้ค่านิยมของผู้ปกครองให้ได้ เพราะเป็นผู้มีอิทธิพลอันดับหนึ่งในการตัดสินใจเลือกเรียนของเด็ก
วันนี้ (6 มี.ค.) นายวณิชย์ อ่วมศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า ตามที่

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ได้ยกร่างกรอบแนวทางการปฏิรูปการอาชีวศึกษาขึ้นนั้น ร่างดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาจากบอร์ด กอศ. และคณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)แล้ว และขณะนี้ได้ทำประชาพิจารณ์ใน 3 ภูมิภาคแล้ว คือ ภาคคะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคเหนือ เหลือเพียงภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพฯ ซึ่งจะจัดพร้อมกันในวันที่ 9 เม.ย.นี้ จากนั้นสอศ.จะประมวลผลประชาพิจารณ์ เพื่อนำมาปรับแก้กรอบแนวทางการปฏิรูปการอาชีวศึกษาเสนอศธ.อีกครั้ง ก่อนนำเสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) และ สภานิติบัญญัตติแห่งชาติ(สนช.) เพื่อให้การปฏิรูปอาชีวศึกษาสามารถผลิตและพัฒนากำลังคนได้อย่างมีคุณภาพและ มาตรฐาน สอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการ และการพัฒนาทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ
รองเลขาธิการ กอศ.กล่าวต่อไปว่า เท่าที่รับฟังผู้ร่วมประชาพิจารณ์ซึ่งประกอบด้วยภาคส่วนต่าง ๆ อาทิ สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สภาหอการค้าจังหวัด สถานประกอบการ ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาระดับต่าง ๆ ครู ชุมชน ท้องถิ่น ผู้ปกครอง รวมถึงศิษย์เก่า เป็นต้น ต่างชี้ให้เห็นถึงสภาพปัญหารวมทั้งให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อย่างมาก คือ เรื่องการกำหนดจำนวนผู้เรียนอาชีวศึกษาที่จะต้องมีความชัดเจน และต้องดำเนินการเพื่อคุณภาพมาตรฐานผู้เรียน ที่สำคัญเรื่องของค่านิยมในการเรียนอาชีวศึกษาที่ต้องเร่งประชาสัมพันธ์และ ทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง เนื่องจากผลการวิจัยชี้ชัดว่า เป็นผู้ที่มีอิทธิพลอันดับหนึ่งในการตัดสินใจเลือกเรียนของเด็ก
"วันนี้ภาพของอาชีวศึกษาดีขึ้นมาก ซึ่งต้องขอชื่นชมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการเรียนอาชีวะโดยมองว่า ผู้เรียนสายอาชีพ คือ ผู้ทรงคุณค่าของสังคม ขณะที่ พล.ร.อ.ณรงค์
พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ ก็เน้นย้ำเสมอว่า อาชีวะสร้างชาติ และได้ทุ่มเทให้กับการส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กเห็นความก้าวหน้าในการ เรียนสายอาชีพ "นายวณิชย์กล่าว.
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก: dailynews
0 comments:
Post a Comment