Sunday, May 9, 2010

Tagged Under:

บุกยึดงาช้างซากสัตว์กว่าพันชิ้น ซุกอพาร์ทเม้นท์เมืองนนท์

By: Unknown On: 10:11 PM
  • Share The Gag
  • รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จนท.กรมป่าไม้ นำกำลังบุกเข้าตรวจยึดงาช้าง ซากสัตว์ และไม้สัก ซุกอพาร์ทเม้นท์ย่านนนทบุรี กว่า 1,000 ชิ้น มูลค่าหมื่นล้าน

    วานนี้(9 พ.ค.) จนท.กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พร้อมกำลังเกือบ 100 นาย นำหมายค้นของศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าทำการตรวจค้นอพาร์ทเม้นท์ 4 ชั้นไม่มีชื่อ ย่านถ.ประชาราษฎร์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยมีนายประเสริฐ ศรียรรยงค์ อายุ 64 ปี รับเป็นเจ้าของก่อนจะพาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ



    จากการตรวจสอบ บริเวณชั้น 1-2 พบว่า เป็นห้องพักของคนที่มาเช่าอยู่อาศัยตามปกติไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่เมื่อตรวจสอบที่ชั้น 3-4 พบงาช้างหลายขนาดจำนวน 119 กิ่ง และซากสัตว์ป่าสงวน ซากสัตว์ป่าคุ้มครองเป็นจำนวนมาก ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพัก อาทิเช่น ซากละองหรือละมั่ง ซากช้าง ซากกวางป่า ซากสมัน ซากกระทิง ซากวัวแดง ซากกูปรี ซากควายป่า ซากเก้ง ซากเนื้อทราย รวมทั้งซากอีกหลายชนิด ที่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้

    นอกจากนี้ที่ลานจอดรถด้านหน้า ยังพบแผ่นไม้สักขนาดใหญ่จำนวนหลายสิบแผ่น เจ้าหน้าที่จึงได้ให้นายประเสริฐเจ้าของนำเอกสารการครอบครองมาให้ตรวจสอบ โดยนายประเสริฐ ได้นำเอกสารการครอบครองมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งกล่าวว่าสำหรับของทั้งหมดนั้น ตนน่าจะมีอยู่ประมาณกว่า 1 พันล้านชิ้น และมีมูลค่าคิดเป็นเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โดยของดังกล่าวนั้นเป็นของที่ตนได้รับตกทอดมรดกมาจากปู่ และเคยเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดมาก่อน ส่วนไม้สักที่พบนั้น สั่งซื้อมาจากประเทศพม่าเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว โดยมีเอกสารทุกอย่างถูกต้องสามารถให้ตรวจสอบได้

    เวลาต่อมา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง.ผบ.ตร. หัวหน้าชุดศูนย์เฉพาะกิจปราบปรามการลักลอบการค้างาช้าง ได้เดินทางมาที่อพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว พร้อมเข้าตรวจสอบของกลางทั้งหมด โดยกล่าวว่าได้รับการร้องเรียนว่าอพาร์ทเม้นท์เป็นแหล่งสะสมงาช้างและซากสัตว์ชนิดต่างๆอย่างไม่ถูกกฎหมาย

    เบื้องต้นนายประเสริฐได้ชี้แจ้งว่า ของทั้งหมดมีใบอนุญาตในการครอบครองถูกต้อง และพร้อมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ในการตรวจสอบ ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเอกสารที่นายประเสริฐนำมาแสดงไปตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการด้วยความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย หากอันไหนมีใบอนุญาติถูกต้อง ก็ให้คืนเจ้าของไป และหากอันไหนไม่มีใบครอบครองก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



    ภาพจาก ครอบครัวข่าว3


    0 comments:

    Post a Comment